หลายคนบอกว่าการวิ่งนั้นเป็นกีฬาที่เริ่มต้นทำได้ง่าย เพียงแค่คุณสวมรองเท้าหนึ่งคู่แล้วออกไปวิ่งก็ถือว่าประสบความสำเร็จกับตัวเองแล้ว แต่รองเท้าคู่ที่เราจะสวมออกไปวิ่งนั้น มันก็มีตัวเลือกในตลาดมากมายเสียเหลือเกิน ดังนั้นบทความนี้จะมาช่วยเพื่อน ๆ เลือกรองเท้าวิ่งที่น่าจับตามองในปี 2021 ซึ่งจะมีรุ่นที่น่าสนใจทั้งหมด 10 คู่ และจะมีคู่ไหนที่โดนใจและถูกใจเพื่อน ๆ บ้าง ก็ลองตามมาอ่านกันได้เลย
1. Nike React Infinity Run Flyknit 2 ราคาป้าย 5800 บาท
Nike React Infinity Run Flyknit 2 เป็นรองเท้าที่ผลิตออกมาเมื่อช่วยลดอาการบาดเจ็บจากการวิ่งโดยเฉพาะ โดยมี Upper ที่ทำจาก Flyknit เป็นผ้าถักที่มีความแข็งแรงกว่ารุ่นเดิม ระบายอากาศที่ดี ซึ่งมีการผสมผสานกับเทคโนโลยี Flywire ซึ่งช่วยให้รองเท้ามีความกระชับในส่วนบริเวณกลางเท้าของเรา ส่วน Midsole ใช้เทคโนโลยี React ตัวเก่ง ซึ่งมีความนุ่ม เบาและรองรับแรงกระแทกได้ดี ส่วน Outsole มีการใช้ยางที่กว้างมากขึ้น ทำให้มันมีความทนทานมั่นคงกว่าเดิมและยังยึดเกาะได้ดีอีกด้วย ซึ่งรองเท้ารุ่นนี้วางจำหน่ายเมื่อต้นเดือนมกราคม 2021
จุดเด่น
รองเท้ารุ่นนี้มี Drop อยู่ที่ 9 มม. Stack Height ด้านหน้า 24 มม. ด้านหลัง 33 มม. น้ำหนักประมาณ 302 กรัม มีเทคโนโลยี Flywire ช่วยให้ความกระชับกับหลังเท้า และมีพื้น React ที่ยืดหยุ่นและรองรับแรงกระแทกขณะใช้งานได้เป็นอย่างดี
เหมาะสมกับ
นักวิ่งหน้าใหม่หรือนักวิ่งที่เคยบาดเจ็บจากการวิ่ง สามารถใช้วิ่งได้ตั้งแต่มินิมาราธอนถึงระยะมาราธอน
ลิงค์สำหรับซื้อ
www.nike.com/th/t/react-infinity-run-flyknit
2. Under Armour Flow Velociti Wind ราคาป้าย 5490 บาท
Under Armour Flow Velociti Wind เป็นรองเท้าวิ่งที่เร็วที่สุดของทางแบรนด์ UA โดยมี Upper เป็นผ้าถักที่เรียกว่า UA Warp ที่จะช่วยในเรื่องการโอบรัดกระชับกับเท้าของนักวิ่ง ซึ่งถูกวางตำแหน่งมาเป็นอย่างดี มีความโปร่งและระบายอากาศที่พอใช้ได้ ส่วน Midsole และ Outsole จะเป็นเทคโนโลยีตัวเดียวกัน โดยจะใช้ UA Flow เป็นพื้นที่มีน้ำหนักเบา มีความนุ่มแต่เฟิร์ม ถึงแม้จะไม่มีการใช้ยางแต่ก็ให้การยึดเกาะที่ดีคล้ายกับรองเท้าบาสเกตบอล และมันถูกวางจำหน่ายเมื่อต้นเดือนมีนาคม 2020
จุดเด่น
รองเท้ารุ่นนี้มี Drop อยู่ที่ 8 มม. Stack Height ด้านหน้า 18 มม. ด้านหลัง 26 มม. น้ำหนักประมาณ 241 กรัม มีเทคโนโลยี UA Warp ที่ช่วยล็อคกระชับให้รองเท้าเป็นหนึ่งเดียวกันกับเท้าของเรา และมีพื้นที่เรียกว่า UA Flow ที่มีการตอบสนองและยึดเกาะได้ดีเยี่ยม
เหมาะสมกับ
นักวิ่งที่ต้องการรองเท้าสำหรับใส่ทำความเร็ว และต้องการลองเทคโนโลยีของรองเท้าวิ่งที่แตกต่างจากแบรนด์ทั่ว ๆ ไป
ลิงค์สำหรับซื้อ
www.underarmour.co.th/en-th/womens-ua-flow
3. adidas Ultraboost 21 ราคาป้าย 6500 บาท
adidas Ultraboost 21 รองเท้าที่หลายคนรู้จักเป็นอย่างดีและตอนนี้มันได้ผลิตมาถึงรุ่นที่ 21 แล้ว โดยมี Upper ที่ทำจากผ้า adidas Primeknit+ มีความยืดหยุ่นเป็นอย่างดีและระบายอากาศได้พอสมควร ด้านหลังมีเกาะป้องกันบริเวณส้นเท้า ส่วน Midsole เป็นเทคโนโลยี Boost ซึ่งจะช่วยในเรื่องรองรับแรงกระแทกและส่งพลังงานให้คืนกลับ บริเวณ Outsole พื้นชั้นล่าง Stretchweb ทำจากยาง Continental ที่มีความแข็งแรงและยึดเกาะได้ดี และรองเท้ารุ่นนี้ยังใช้ Primeblue ซึ่งเป็นวัสดุรีไซเคิลอีกด้วย วางจำหน่ายเมื่อต้นกุมภาพันธ์ 2021
จุดเด่น
รองเท้ารุ่นนี้มี Drop อยู่ที่ 10 มม. Stack Height ด้านหน้า 20.5 มม. ด้านหลัง 30.5 มม. น้ำหนักประมาณ 340 กรัม มี Upper ผ้า Primeknit+ เทคโนโลยีเฉพาะของทางแบรนด์ ที่ยืดขยายตามการใช้งาน และมีพื้นที่ใช้เทคโนโลยีตัวเก่งที่เรียกว่า Boost ที่ให้แคปซูลเพิ่มมาถึง 6 %
เหมาะสมกับ
นักวิ่งหน้าใหม่ที่พึ่งเริ่มต้น และนักวิ่งที่น้ำหนักตัวเยอะ ต้องการรองเท้าที่มีการซัพพอร์ตสูง
ลิงค์ซื้อ
www.adidas.co.th/th/KerCc1EgA1QQaAlJIEAL
4. New Balance 1080 v11 2E ราคาป้าย 5490 บาท
New Balance 1080 v11 2E เป็นรองเท้าหน้ากว้างขนาด 2E สำหรับใช้วิ่งในระยะไกล มี Upper ที่เรียกว่า HypoKnit ที่เป็นผ้าถักของทางค่าย NB ซึ่งมีคุณสมบัติยืดหยุ่น ระบายอากาศได้ดี และให้ความนุ่มถึง 360 องศา มี Insole ที่เป็นแผ่นรองพื้น Ortholite ให้ความนุ่มสบาย ส่วน Midsole คู่นี้มากับเทคโนโลยี Fresh Foam X ที่ช่วยรองรับแรงกระแทกได้สูง มีน้ำหนักเบา และ มี Outsole เป็นยางที่ยึดเกาะได้ดีในพื้นที่ลื่น วางจำหน่ายเมื่อต้นเดือนมีนาคมปี 2021
จุดเด่น
รองเท้ารุ่นนี้มี Drop อยู่ที่ 8 มม. Stack Height ด้านหน้า 22 มม. ด้านหลัง 30 มม. น้ำหนักประมาณ 285 กรัม มีหน้าเท้ากว้างขนาด 2E ช่วยให้คนเอเชียส่วนใหญ่ใส่วิ่งได้สบายเท้า และมีเทคโนโลยี Ultra Hell ที่โอบรับกับส่วนของหลังเท้าไห้กระชับมากยิ่งขึ้น
เหมาะสมกับ
คนที่มีหน้าเท้ากว้าง สามารถสวมใส่วิ่งได้ทุกระยะ ตั้งแต่มินิมาราธอนจนไปถึงอัลตร้ามาราธอน
ลิงค์สำหรับซื้อ
www.supersports.co.th/newbalance-thailand
5. Saucony Guide 14 ราคาป้าย 4700 บาท
Saucony Guide 14 เป็นรองเท้า Stability สายซัพพอร์ตสำหรับคนเท้าแบบหรือเท้าล้ม มี Upper ที่เป็น Engineered mesh น้ำหนักเบา มีความนุ่มและระบายอากาศได้ดี ด้านในมีวัสดุที่เป็นแถบยาง ซึ่งจะช่วยประคองเท้าของคนเท้าแบนหรือเท้าล้ม พื้นชั้นกลาง Midsole เป็น PWRRUN เทคโนโลยีที่ช่วยซัพพอร์ตลดแรงกระแทกขณะวิ่ง และมี TPU Guidance ซึ่งจะช่วยป้องการเท้าของเราไม่ให้ล้มเข้าด้านใน และมี Outsole แบบ Tri-Flex ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและเป็นยางทั้งแผ่นที่มีความคงทน วางจำหน่ายเมื่อต้นเดือนมีนาคม 2021
จุดเด่น
รองเท้ารุ่นนี้มี Drop อยู่ที่ 8 มม. Stack Height ด้านหน้า 24.5 มม. ด้านหลัง 32.5 มม. น้ำหนักประมาณ 300 กรัม มี TPU Guidance ช่วยป้องกันเท้าล้ม และพื้นเทคโนโลยี PWRRUN ที่มีความนุ่มมากกว่ารุ่นก่อน ๆ
เหมาะสมกับ
คนเท้าแบน หรือคนเท้าล้ม (Overpronated) ใช้วิ่งได้ตั้งแต่ระยะมินิมาราธอนจนถึงระยะมาราธอน
ลิงค์สำหรับซื้อ
6. Asics Magic Speed
Asics Magic Speed รองเท้าวิ่งรุ่นใหม่สายสปีด ที่ถูกออกแบบมาให้โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีตัวใหม่ทั้งหมดจากทางค่าย Asics โดยมี Upper เป็นผ้าตาข่ายที่เรียกว่า Multi Directional Mesh มีน้ำหนักเบา รองรับซัพพอร์ตเท้าได้หลายทิศทาง มี Midsole ที่ใช้เทคโนโลยีถึง 3 อย่างคือ GuideSole, FlyteFoamBlast และ CabonPlate ซึ่งถูกยกระดับช่วยให้เราสามารถทะยานไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วและประหยัดพลังงาน และมี Outsole เป็นพื้นยาง AHAR มีความทนทาน ยึดเกาะได้ทุกสภาพพื้นผิว และมันพึ่งวางขายไปเมื่อปลายเดือนเมษายน 2021
จุดเด่น
รองเท้ารุ่นนี้มี Drop อยู่ที่ 5 มม. Stack Height ด้านหน้า 29 มม. ด้านหลัง 34 มม. น้ำหนักประมาณ 210 กรัม มีแผ่น Carbon + TPU อยู่ใต้ฝ่าเท้าแบบไม่เต็มแผ่นซึ่งจะมีเฉพาะในรุ่น Magic Speed เท่านั้น
เหมาะสมกับ
สายซิ่ง นักวิ่งที่ต้องการองเท้าสำหรับใช้ทำความเร็ว ซ้อมวิ่ง Tempo หรือวิ่ง Interval ได้สบาย ๆ และสามารถเอาไปใช้ใส่ลงแข่งได้ในทุกระยะ
ลิงค์สำหรับซื้อ
www.rev.co.th/1011b026.600/asics-magic
7. Brooks Levitate 4 ราคาป้าย 6400 บาท
Brooks Levitate 4 เป็นอีกหนึ่งในตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับรองเท้าวิ่ง 2021 โดยมี Upper เป็นผ้าถัก Knit ที่มีความสบายเหมือนสวมถุงเท้าแต่ให้ความกระชับเท้าเป็นพิเศษและระบายอากาศได้ดี มี Midsole ที่ใช้เทคโนโลยี DNA AMP ที่ช่วยลดแรงกระแทก ตอบสนองได้ดี มีความเบาและมีความนุ่ม ส่วนบริเวณ Outsole จะเป็นยางที่มีความคงทนมากกว่าเดิม และมีรูปทรงเหมือนลูกศรช่วยป้องกันลื่นและช่วยให้วิ่งไปข้างหน้าได้อย่างไหลลื่น ซึ่งรองเท้ารุ่นนี้วางขายไปเมื่อต้นปี 2021
จุดเด่น
รองเท้ารุ่นนี้มี Drop อยู่ที่ 8 มม. Stack Height ด้านหน้า 21 มม. ด้านหลัง 29 มม. น้ำหนักประมาณ 292 กรัม มีพื้นชั้นบนที่ใช้เทคโนโลยี DNA AMP ซึ่งช่วยเพิ่มความนุ่มนวลในขณะที่เราวิ่ง และมีการปรับเปลี่ยนพื้นรองเท้าจากรุ่นก่อนซึ่งช่วยให้มันใช้งานได้ยาวนานขึ้น
เหมาะสมกับ
นักวิ่งทุกคน สามารถใส่ซ้อมได้ทุก ๆ วัน ใช้ซ้อมทำความเร็วก็ดี หรือจะเอามาใช้วิ่งช้าก็ได้
ลิงค์สำหรับซื้อ
www.brooksthailand.com/storedetail
8. Hoka One One Mach 4 ราคาป้าย 5490
Hoka One One Mach 4 เป็นรองเท้าอเนกประสงค์หรือที่เรียกว่ารองเท้าวิ่งแบบ Daily Trainer โดยมี Upper เป็นผ้า Engineered Mesh ปักด้วยเส้นด้าย TPU ระบายอากาศได้ดี มีน้ำหนักเบา ด้านหลังมี Anatomical Achilles Heel Tab ลดการเสียดสีบริเวณเอ็นร้อยหวาย ส่วนบริเวณ Midsole เป็นโฟม ProFly ที่กระจายความหนารองรับแรงกระแทกได้ดี และมี Outsole ที่เรียกว่า Rubberized EVA โดยเน้นไปที่ความเบาของพื้น วางจำหน่ายเมื่อเดือนมีนาคม 2021
จุดเด่น
รองเท้ารุ่นนี้มี Drop อยู่ที่ 5 มม. Stack Height ด้านหน้า 24 มม. ด้านหลัง 29 มม. น้ำหนักประมาณ 230 กรัม มีเทคโนโลยี ProFly ที่ช่วยลดแรงกระแทกได้สูงและช่วยส่งนักวิ่งให้พุ่งออกไปข้างหน้าได้ดี และมี Anatomical Achilles ที่ช่วยลดแรงเสียดสีที่หลังข้อเท้า
เหมาะสมกับ
นักวิ่งที่ต้องการรองเท้าแบบพื้นนุ่มสบายและตอบสนองได้ดีสำหรับวิ่งระยะไกล
ลิงค์สำหรับซื้อ
9. On Cloudswift 2 ราคาป้าย 5200 บาท
On Cloudswift เป็นรองเท้าที่เน้นในเรื่องการซัพพอร์ตลดแรงกระแทก ใช้งานได้หลากหลาย โดยมี Upper เป็นผ้า Engineered Mesh ที่มีความยืดหยุ่น ระบายอากาศได้ดี รวมถึงลิ้นรองเท้าก็ใช้เป็นผ้าชิ้นเดียวกับตัว Upper ทำให้เรารู้สึกหมือนใส่ถุงเท้า และมีแถบ TPU ที่เรียกว่า Side Panel ช่วยให้เพิ่มความกระชับ บริเวณ Midsole ใช้เทคโนโลยี Helion Super Foam ที่มีน้ำหนักเบา ลดแรงกระแทกและส่งคืนพลังงานในการวิ่งให้กลับคืนไปข้างหน้า ส่วน Outsole มีฐานที่กว้างกว่ารุ่นเดิม และมียางที่ช่วยยึดเกาะที่ดียิ่งขึ้น วางขายเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2021
จุดเด่น
รองเท้ารุ่นนี้มี Drop อยู่ที่ 7 มม. Stack Height ด้านหน้า 16 มม. ด้านหลัง 23 มม. น้ำหนักประมาณ 290 กรัม มีพื้น Helion Super Foam ซึ่งเป็นโฟมที่ดีที่สุดของค่าย On และมี เทคโนโลยี Cloud Tec ที่มารองรับแรงกระแทกอีกชั้น
เหมาะสมกับ
นักวิ่งหน้าใหม่ ใช้ได้ตั้งแต่วิ่ง 5 กิโลเมตรเป็นต้นไป และนำไปใช้ได้กับหลายกิจกรรมในการออกกำลังกาย
ลิงค์สำหรับซื้อ
10. Altra Rivera ราคาป้าย 4750 บาท
Altra Rivera รองเท้าวิ่งแนว Zero Drop หรือรองเท้าวิ่งแนวธรรมชาติ ที่ออกแบบมาให้มีดรอปรองเท้าที่ 0 เพื่อให้มนุษย์วิ่งได้ใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด โดยมี Upper เป็นผ้า Mesh แบบใหม่ ที่น้ำหนักบางเบา ระบายอากาศได้ดี มีหน้าเท้าที่กว้างทำให้นิ้วเท้าเราไม่บีบเบียดหรือเสียดสีเวลาใช้งาน มี Midsole เป็น Ego โฟมให้ความนุ่มเด้ง ยืดหยุ่น และซัพพอร์ตได้ดี ส่วน Outsole เป็นยางที่มีความทนทานพอสมควร วางจำหน่ายเมื่อต้นปี 2021
จุดเด่น
รองเท้ารุ่นนี้มี Drop อยู่ที่ 0 มม. Stack Height ด้านหน้า 26 มม. ด้านหลัง 26 มม. น้ำหนักประมาณ 243 กรัม เป็นรองเท้าดรอป 0 ที่ช่วยให้เราวิ่งได้อย่างเป็นธรรมชาติและมีหน้าเท้าที่กว้างช่วยให้นักวิ่งสวมใส่ได้อย่างสบายเท้า
เหมาะสมกับ
นักวิ่งที่ต้องการพัฒนากล้ามเนื้อส่วนที่ไม่ค่อยได้ใช้ สามารถใส่วิ่งได้ดีถึงระยะมาราธอน
ลิงค์สำหรับซื้อ
www.runnercart.com/road-running-shoes
จบไปแล้วสำหรับ 10 รองเท้าวิ่ง 2021 โดยทุกคู่ที่นำมารีวิวให้อ่านก็จะไม่มีการซ้ำกันเลยซักรุ่น ทำให้เพื่อน ๆ สามารถตัดสินใจเลือกแบรนด์ที่ต้องการได้เป็นอย่างสนุกสนานมากขึ้น ซึ่งถ้าหากใครสนใจคู่ไหนเป็นพิเศษก็อยากให้ไปลองสวมหรือทดลองวิ่งบนเครื่องที่ร้านตัวแทนจัดจำหน่าย เพื่อที่จะได้เลือกไซส์ให้ตรงกับเท้าของเรามากที่สุด และแนะนำว่าให้ไปลองกันในช่วงเย็น ๆ เพราะว่ามันเป็นช่วงเวลาที่เท้าของเราจะขยายตัวระหว่างวันมากที่สุด