Saucony เป็นแบรนด์รองเท้าวิ่งจากประเทศสหรัฐอเมริกาที่เริ่มก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1898 โดยความหมายของชื่อแบรนด์ Saucony คือสถานที่แม่น้ำสองสายมาบรรจบกัน ซึ่งมันก็ได้กลายมาเป็นรูป Logo ลำธารสายน้ำที่เราคุ้นเคยของทางแบรนด์ด้วยเช่นกัน และ 10 รองเท้าวิ่ง Saucony ที่น่าสนใจทั้งหมดจะมีรุ่นไหนที่ถูกใจหรือน่าใส่ออกไปวิ่งบ้าง เพื่อน ๆ ตามมาอ่านกันต่อได้เลย
1. Saucony Kinvara 12 ราคาป้าย 3990 บาท
Saucony Kinvara 12 เป็นซีรีส์รองเท้าตัวยอดนิยมทำความเร็วสำหรับคนที่มีหน้าเท้าปกติ โดยจะมี Upper ที่ผลิตจาก Engineered Mesh เป็นผ้าที่ระบายอากาศได้ดี น้ำหนักเบา มีเทคโนโลยี FORMFIT ช่วยเพิ่มความกระชับ ลิ้นรองเท้ามีความบางเหมาะกับสายทำความเร็ว ขยับไปที่บริเวณ Midsole เป็นพื้นโฟมเทคโนโลยี PWRRUN ที่ช่วยลดแรงกระแทก มีความนุ่มเด้ง ตอบสนองในขณะใช้งานได้เป็นอย่างดี ด้านหลังส้นรองเท้ามีลักษณะยื่นออกมาเล็กน้อย สำหรับช่วยคนที่วิ่งลงในส่วนส้นก่อน สุดท้ายในส่วนของ Outsole เป็นพื้น XT-900 ที่มีความทนทานมากขึ้นกว่าเดิม
จุดเด่น
ตัวรองเท้าเป็น Engineered Mesh ระบายอากาศได้ดี พื้นชั้นกลาง PWRRUN ช่วยรองรับแรงกระแทก และพื้นชั้นล่าง XT-900 ที่ยึดเกาะและทนทาน ส่วนรองเท้ารุ่นนี้มี Drop อยู่ที่ 4 มม. ปลายเท้า 24.5 มม. ส้นเท้า 28.5 มม. หนักประมาณ 213 กรัม
เหมาะสมกับ
นักวิ่งที่ต้องการรองเท้าที่ใช้ใส่ซ้อมในทุก ๆ วัน สามารถใช้วิ่งได้ตั้งแต่ระยะมินิมาราธอนจนถึงระยะมาราธอน
ลิงค์สำหรับซื้อ
2. Saucony Endorphin Pro 2 ราคาป้าย 6990 บาท
Saucony Endorphin Pro 2 ต่อยอดจากรองเท้าวิ่งสุดฮิตที่เป็นกระแสในรุ่นแรก โดยในรุ่น 2 นี้มีการใช้ Upper เป็น Engineered Mesh แบบชั้นเดียว ที่มีเทคโนโลยี Formfit ซึ่งจะช่วยในเรื่องความกระชับมากกว่าเดิม บริเวณ Midsole ใช้โฟม PWRRUN PB ที่มีความนุ่มเด้ง ข้างใต้มีแผ่น S-Curve Carbon Plate ที่มีความดีด ทำให้เราวิ่งไปด้านหน้าได้เร็วขึ้น และมีทรงรองเท้าแบบ Speedroll Technology ที่ทำให้เราวิ่งได้อย่างไหลลื่น สุดท้าย Outsole เป็นพื้นแบบ XT-900 ที่ช่วยยึดเกาะและมีความทนทาน
จุดเด่น
ตัวรองเท้าใช้ Engineered Mesh ชั้นเดียวลวดลายสวยงาม พื้นรองเท้าที่ใช้ทั้ง PWRRUN PB และ S-Curve Carbon Plate ที่ช่วยให้เราวิ่งได้รวดเร็วกว่าปกติ ส่วนรองเท้ารุ่นนี้มี Drop อยู่ที่ 8 มม. ปลายเท้า 27.5 มม. ส้นเท้า 35.5 มม. หนักประมาณ 213 กรัม
เหมาะสมกับ
นักวิ่งที่ต้องการรองเท้าตัวท็อปรุ่นใหม่ ที่สามารถเอาไว้ใช้แข่งทำความเร็วได้ สามารถใช้ใส่วิ่งได้ในทุกระยะ
ลิงค์สำหรับซื้อ
3. Saucony Endorphin Speed 2 ราคาป้าย 5990 บาท
Saucony Endorphin Speed 2 เป็นรองเท้าตัวซ้อมทำความเร็ว ซึ่งจะเป็นตัวรองถัดมาจาก Endorphin Pro 2 โดยจะใช้ Upper เป็น Engineered Mesh ที่ปรับรูระบายอากาศแบบใหม่ ช่วยให้ระบายอากาศได้ดีกว่ารุ่นก่อน และมีเทคโนโลยี 3D Print Structure ที่ช่วยเพิ่มความกระชับ ส่วนบริเวณ Midsole ใช้โฟม PWRRUN PB ผสมกับ Responsive Nylon Plate จะช่วยในเรื่องความยืดหยุ่นและส่งแรงคืนกลับได้ดี และมีทรง Speedroll Technology ที่ช่วยให้เราวิ่งได้อย่างไหลลื่น สุดท้ายในส่วนตรงบริเวณ Outsole เป็นพื้นแบบ XT-900 ที่มีความทนทานเป็นพิเศษ ยึดเกาะได้ค่อนข้างดี
จุดเด่น
ตัวรองเท้าเป็น Engineered Mesh ปรับรูระบายอากาศได้ดีกว่าเดิม พื้นชั้นกลางมี PWRRUN PB และ Responsive Nylon Plate ช่วยซัพพอร์ตเท้า ส่วนรองเท้ารุ่นนี้มี Drop อยู่ที่ 8 มม. ปลายเท้า 27.5 มม. ส้นเท้า 35.5 มม. หนักประมาณ 224 กรัม
เหมาะสมกับ
นักวิ่งสายสปีดที่ต้องการรองเท้าทำความเร็วตัวรองลงมาหน่อย สามารถใช้ซ้อมใช้แข่งได้ในทุกระยะ
ลิงค์สำหรับซื้อ
4. Saucony Endorphin Shift ราคาป้าย 4990 บาท
Saucony Endorphin Shift เป็นรองเท้าวิ่งตระกูล Endorphin ตัวล่างสุดสำหรับใช้วิ่งสบาย ๆ ในทุกวัน โดยรองเท้ารุ่นนี้จะใช้ Upper เป็นผ้า Mesh ระบายอากาศได้ดี ที่มีเทคโนโลยี FORMFIT ช่วยเพิ่มความกระชับ ลิ้นรองเท้าเป็นแบบหนานุ่ม ส่วนด้านหลังมีพลาสติกช่วยเสริมความมั่นคง ส่วนบริเวณ Midsole ใช้เป็นโฟม PWRRUN ที่ให้ความนุ่มเด้งรองรับแรงกระแทกได้ดี มีทรงแบบ SPEEDROLL ที่ช่วยให้วิ่งได้อย่างลื่นไหล และในส่วนสุดท้าย Outsole ใช้เป็นพื้น XT-900 ที่มีความทนทานพอสมควร
จุดเด่น
ตัวรองเท้าเป็น Mesh ช่วยระบายอากาศ พื้นชั้นกลางใช้โฟม PWRRUN ช่วยรองรับแรงกระแทก และพื้นชั้นนอก XT-900 ช่วยในการยึดเกาะ ส่วนรองเท้ารุ่นนี้มี Drop อยู่ที่ 4 มม. ปลายเท้า 34 มม. ส้นเท้า 38 มม. หนักประมาณ 290 กรัม
เหมาะสมกับ
ใช้ได้กับนักวิ่งที่มีเท้าในทุกรูปแบบ นักวิ่งหน้าใหม่และคนที่ชอบรองเท้าแบบมีซัพพอร์ตสูง สามารถใช้วิ่งได้ในทุกระยะ
ลิงค์สำหรับซื้อ
5. Saucony Ride 14 ราคาป้าย 4700 บาท
Saucony Ride 14 เป็นรองเท้า Daily Trainer ที่นักวิ่งสามารถสวมใส่ได้ในทุก ๆ วันไม่เน้นทำความเร็ว โดยมี Upper ที่ผลิตจาก Engineered Mesh ที่ให้การระบายอากาศได้ดี ใช้เทคโนโลยี 3D-Print Overlays ที่มีความกระชับในส่วนที่แตกต่างกัน ทำให้สามารถสวมใส่ได้สบายเท้า บริเวณ Midsole เป็นพื้นโฟม PWRRUN ที่มีความนุ่มตอบสนองได้ดีในการวิ่ง สุดท้ายขยับไปที่ Outsole ใช้เป็นพื้น Tri-Flex ที่มีความยืดหยุ่น และยาง Blown Rubber ที่มีความทนทานต่อพื้นถนน
จุดเด่น
ตัวรองเท้าใช้ผ้า Engineered Mesh ที่กระชับและระบายอากาศได้ดี พื้นชั้นกลาง PWRRUN ช่วยลดแรงกระแทก และพื้นชั้นนอก Tri-Flex และ Blown Rubber ช่วยในการยึดเกาะและมีความทนทาน ส่วนรองเท้ารุ่นนี้มี Drop อยู่ที่ 8 มม. ปลายเท้า 24 มม. ส้นเท้า 32 มม. หนักประมาณ 304 กรัม
เหมาะสมกับ
นักวิ่งหน้าใหม่ หรือนักวิ่งที่ต้องการรองเท้ามีซัพพอร์ตที่ใช้วิ่งได้เรื่อย ๆ ในทุก ๆ วันไม่เน้นความเร็ว สามารถใช้วิ่งได้ในทุกระยะ
ลิงค์สำหรับซื้อ
6. Saucony Triumph 18 ราคาป้าย 5190 บาท
Saucony Triumph 18 เป็นรองเท้าสายซัพพอร์ตที่มี Cushioning สูง มี Upper ที่ผลิตจากผ้า Engineered Jacquard Mesh แบบมีสัมผัสนุ่มเท้า ระบายอากาศได้ดี และมีเทคโนโลยี Formfit ช่วยเพิ่มความกระชับ ส่วนบริเวณ Midsole เป็นโฟม PPWRRUN + ที่มีความหนามากกว่าตัวธรรมดา มีความนุ่มมากและรองรับแรวกระแทกได้ดีกว่าเดิม ส่วนสุดท้าย Outsole ใช้เป็นพื้น Tri-Flex ที่มีความยืดหยุ่น และ XT-900 ที่มีความทนทานและยึดเกาะได้ดี
จุดเด่น
ตัวรองเท้าเป็น Engineered Jacquard Mesh ให้สัมผัสที่นุ่ม และพื้นชั้นกลางใช้โฟม PPWRRUN + ที่มีความนุ่มนวลมากกว่าปกติ ส่วนรองเท้ารุ่นนี้มี Drop อยู่ที่ 8 มม. ปลายเท้า 24.5 มม. ส้นเท้า 32.5 มม. หนักประมาณ 315 กรัม
เหมาะสมกับ
และนักวิ่งที่น้ำหนักเยอะ หรือนักวิ่งระยะไกลที่ต้องการรองเท้า Cushioning หนา ๆ เอาช่วยรองรับแรงกระแทกได้สูง
ลิงค์สำหรับซื้อ
7. Saucony Axon ราคาป้าย 3450 บาท
Saucony Axon เป็นรองเท้า Daily Trainers ที่ใช้ทำความเร็วได้และมีซัพพอร์ตสูง โดยจะมีการใช้ Upper เป็นผ้าตาข่ายแบบบาง Engineered Air Mesh ที่ให้การระบายอากาศได้ดีเยี่ยม เชือกรองเท้าเป็นแบบแบน ส่วนบริเวณ Midsole เป็นโฟม PWRRUN ที่มีความหนานุ่ม รองรับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม มาพร้อมเทคโนโลยี Speed Driven Geometry ที่ช่วยให้เราสามารถวิ่งได้อย่างไหลลื่น ส่วนสุดท้าย Outsole ใช้ยาง Carbon Rubber ที่ทนทานต่อทุกสภาพพื้นผิว
จุดเด่น
ตัวรองเท้าเป็น Engineered Air Mesh ที่ช่วยให้เท้าเย็นสบาย และพื้นชั้นกลาง PWRRUN ที่รองรับแรงกระแทกและส่งคืนพลังงานได้ดี ส่วนรองเท้ารุ่นนี้มี Drop อยู่ที่ 4 มม. ปลายเท้า 34 มม. ส้นเท้า 38 มม. หนักประมาณ 264 กรัม
เหมาะสมกับ
นักวิ่งที่ต้องการรองเท้าที่สวมใส่ซ้อมได้ในทุกวัน มีซัพพอร์ตสูงและเอาไปใช้วิ่งเร็วได้ด้วย สามารถใช้วิ่งได้ในทุกระยะ
ลิงค์สำหรับซื้อ
8. Saucony Hurricane 22 ราคาป้าย 5900 บาท
Saucony Hurricane 22 รองเท้าแนว Cushion ที่สามารถใช้สวมใส่ได้ทุกวัน มี Upper เป็นผ้า Engineered Mesh มีความยืดหยุ่น ช่วยในการระบายอากาศได้ดีพอสมควร มีเทคโนโลยี FORMFIT กลางเท้ามีความกระชับ รอบข้อเท้ามีการบุนุ่ม ด้านในมีโครงสร้างซัพพอร์ต Overpronate ช่วยพยุงเท้า บริเวณ Midsole ใช้โฟม PWRRUN+ ที่มีความหนานุ่มสูง ช่วยลดแรงกระแทกในขณะใช้งานได้เป็นอย่างดี ส่วนสุดท้าย Outsole เป็นพื้นที่มีความทนทานและช่วยในการยึดเกาะ
จุดเด่น
ตัวรองเท้าใช้ Engineered Mesh ที่มีความกระชับ และมีโครงสร้างสำหรับ Overpronate ช่วยซัพพอร์ตอุ้งเท้าไม่ให้ล้ม ส่วนรองเท้ารุ่นนี้มี Drop อยู่ที่ 8 มม. ปลายเท้า 25.5 มม. ส้นเท้า 33.5 มม. หนักประมาณ 335 กรัม
เหมาะสมกับ
นักวิ่งหน้าใหม่ นักวิ่งที่มีน้ำหนักตัวเยอะ หรือนักวิ่งที่ต้องการรองเท้าที่มี Cushion สูง สามารถใช้วิ่งนาน ๆ ได้ในทุกระยะ
ลิงค์สำหรับซื้อ
9. Saucony Freedom 3 ราคาป้าย 5999 บาท
Saucony Freedom 3 เป็นรองเท้าสายซัพพอร์ตที่พื้นไม่หนามากและมีน้ำหนักเบา โดยรองเท้ารุ่นนี้ใช้ Upper ที่ผลิตจาก Engineered Mesh ที่มีความเบาสบาย ระบายอากาศได้ดี และมีเทคโนโลยี FORMFIT เพิ่มความกระชับให้กับนักวิ่ง รอบข้อเท้ามีความหนานุ่ม บริเวณ Midsole ใช้ PWRRUN+ เป็นโฟมมีความนุ่มเด้ง และมีความยืดหยุ่น รองรับแรงกระแทกได้ดี ส่วนสุดท้าย Outsole ใช้ Crsytal Rubber เป็นยางที่มีความหนึบให้การยึดเกาะได้ดี
จุดเด่น
ตัวรองเท้าเป็น Engineered Mesh มีน้ำหนักเบา กระชับ พื้นชั้นกลางแบบ PWRRUN+ ที่มีความนุ่มและเด้ง ส่วนรองเท้ารุ่นนี้มี Drop อยู่ที่ 4 มม. ปลายเท้า 23.5 มม. ส้นเท้า 27.5 มม. หนักประมาณ 235 กรัม
เหมาะสมกับ
นักวิ่งที่มีรูปเท้าปกติหรือรูปเท้าแบบเว้า ที่อยากได้รองเท้าสายซัพพอร์ตน้ำหนักเบา สามารถใช้ซ้อมวิ่งใช้แข่งได้ในทุกระยะ
ลิงค์สำหรับซื้อ
10. Saucony Liberty ISO 2 ราคาป้าย 4990 บาท
Saucony Liberty ISO 2 เป็นรองเท้าที่ผลิตขึ้นมาเพื่อคนที่มีรูปเท้าแบนโดยเฉพาะ ซึ่ง Upper ของรองเท้าคู่นี้เป็นผ้า Knit ที่มีความกระชับ ระบายอากาศได้ดี มีน้ำหนักเบา รอบข้อเท้าและลิ้นรองเท้ามีการบุนุ่ม ให้ความรู้สึกนุ่มสบาย อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี ISOFIBER ที่ช่วยประคองเท้าตั้งแต่กลางเท้าจนถึงบริเวณส้นเท้า ขยับไปที่ Midsole เป็นโฟม Everun รองรับแรงกระแทกและมี TPU guidance ช่วยซัพพอร์ตคนเท้าล้ม ส่วนสุดท้าย Outsole เป็นยาง 2 แบบที่มีความนุ่มและแข็งแตกต่างกัน
จุดเด่น
ตัวรองเท้าเป็นผ้า Knit ที่เน้นความกระชับ และมีเทคโนโลยีช่วยคนเท้าล้ม ทั้ง ISOFIBER และ TPU guidance ส่วนรองเท้ารุ่นนี้มี Drop อยู่ที่ 4 มม. ปลายเท้า 18 มม. ส้นเท้า 22 มม. หนักประมาณ 279 กรัม
เหมาะสมกับ
นักวิ่งที่มีเท้าล้ม Overpronated ที่ต้องการรองเท้าที่ช่วยซัพพอร์ตเท้าให้สามารถวิ่งได้เรื่อย ๆ สบาย ๆ ใช้วิ่งได้ในทุกระยะ
ลิงค์สำหรับซื้อ
ในช่วง 2-3 ปีหลังแบรนด์ Saucony สามารถเข้ามาครอบครองใจนักวิ่งไทยจำนวนมากได้อย่างง่ายดาย เพราะมันเป็นรองเท้าที่มีดีไซส์สวยงาม ราคาไม่แพงนัก และมีรองเท้าวิ่งเฉพาะทางอยู่หลากหลายรุ่น อีกทั้งเรายังสามารถหาซื้อได้ง่ายด้วย ส่วนใครที่สนใจรุ่นไหนใน 10 รองเท้าวิ่ง Saucony ด้านบน ก็ลองกดเข้าไปดูในลิงค์ที่แปะเอาไว้ได้เลย เพราะในตอนนี้มีหลายรุ่นกำลังลดราคาอยู่ด้วยนะ thumbandheels
Credit สล็อตฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ