“adidas Ultra Boost 21” อดีตดียังไงปัจจุบันดีกว่าเดิม

“adidas Ultra Boost 21” อดีตดียังไงปัจจุบันดีกว่าเดิม

เทคโนโลยีที่เป็นจุดเด่นของรองเท้า adidas Ultra Boost 21 คู่นี้ก็คือมันมีโฟม Boost เพิ่มขึ้นมากถึง 6% ทำให้มันมีการซัพพอร์ทเพิ่มขึ้น มีการใช้วัสดุบางส่วนที่มาจากการรีไซเคิล และมี Torsion System ที่ออกแบบมาให้ชื่อว่า ADIDAS LEP ซึ่งเพิ่มความโค้งของพื้นรองเท้าและในส่วนของ Upper ก็ใช้เทคโนโลยีเดิมคือ PrimeKnit เพื่อช่วยให้รองเท้ามีความกระชับและยืดหยุ่นทำให้ใส่สบาย ทั้งยังมีโครงสร้าง 3 ขีดตรงกลางเท้าเป็นเพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแรงด้านนอกอีกด้วย

“adidas Ultra Boost 21” อดีตดียังไงปัจจุบันดีกว่าเดิม_02

มาถึงส่วนข้อเท้าก็มีความกระชับเข้ารูปได้ดีมาก บริเวณส้นเท้าและเอ็นร้อยหวายมีการบุกำมะหยี่ และยังมี TPU พลาสติกเพิ่มช่วยเพิ่มความมั่นคงเวลาที่เราวิ่งหรือเดินลงที่ส้นเท้า บริเวณ Midsole ที่เพิ่ม Boost มาให้ถึง 6%  ทำให้รูปทรงเปลี่ยนไปก็แปลกตาดีมีความโค้งมน ตรง Outsole ก็ให้เทคโนโลยี ADIDAS LEP เพิ่มตอบสนองบริเวณปลายเท้า นักวิ่งหน้าใหม่หรือคนที่มีน้ำหนักเยอะน่าจะถูกใจเพราะมันใส่ง่าย กระชับเท้าทั้งยังให้หน้าเท้าที่มีความกว้าง วัสดุก็ดูดีมาก ๆ 

“adidas Ultra Boost 21” อดีตดียังไงปัจจุบันดีกว่าเดิม_03

โฟมของ Bosst ที่ออกแนวนุ่มแน่น แต่วิ่งแล้วไม่ให้ความเด้งเท่าไร ถ้าใส่เดินหรือใส่วิ่งแบบลงที่ส้นเท้าก่อนก็มีความดีงามพอใช้ได้อยู่ แต่ถ้าเราลงเท้าตรงบริเวณกลางเท้าหรือปลายเท้าก็จะแทบไม่รู้สึกถึงความเป็น Bosst มากเท่าไร ทำให้มันเหมาะกับการวิ่งเยอะๆ ในชีวิตประจำวันหรือการวิ่งช้า ๆ มากกว่าเรียกได้ว่าเป็นรองเท้าที่เอาไว้วิ่งเพื่อสุขภาพก็ว่าได้ 

“adidas Ultra Boost 21” อดีตดียังไงปัจจุบันดีกว่าเดิม_04

ถึงตลาดของเจ้า adidas Ultra Boost 21 นี้จะทำมาเพิ่มเป็นรองเท้าวิ่ง แต่มันก็ไม่ได้เอามาใช้วิ่งแบบจริงจังซักเท่าไร ข้อเสียก็คือ มันมีน้ำหนักที่ค่อนข้างมาถึง 300 กว่ากรัม ถ้าใส่ไปนาน ๆ จะมีอาการขาล้า ไม่ค่อยมีแรงส่งซักเท่าไร ถ้าสำหรับนักวิ่งขาแรกหรือคนที่จะเอามาใส่ลงแข่งหรือฝึกซ้อมอย่างหนักมันยังไม่ตอบโจทย์และไม่แนะนำให้เสียเงินไปกับรองเท้ารุ่นนี้เลย ถ้ายังชอบแบรนด์นี้ก็ให้มองไปที่รุ่นอื่นเลยก็ได้ ส่วนราคาป้ายของเจ้าคู่นี้อยู่ที่ 6500 บาท

“adidas Ultra Boost 21” อดีตดียังไงปัจจุบันดีกว่าเดิม_05

สรุป adidas Ultra Boost 21 ดีไซน์รวม ๆ ดูสวยงาม เหมาะสำหรับการใส่แบบ Daily Trainer คือสามารถสวมใส่ได้ในทุก ๆ วัน วิ่งออกกำลังกายเบา ๆ วิ่งช้า ๆ ใช้ออกกำลังกายทั่ว ๆ ไปได้ดี มีการออกแบบที่ทันสมัยและใช้วัสดุที่ดี มีพื้นที่ทนทาน ถ้าเอามาใส่ไปทำงานแล้วตอนเย็นออกไปวิ่งชิว ๆ หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ ก็เหมาะสม

เครดิตภาพ adidas.co.th

Facebook
Twitter