เทคโนโลยีที่มากับรองเท้า Hoka One One Elevon คู่นี้ก็คือ Upper ที่เป็น Engineered Mesh ทำให้มันมีความยืดหยุ่น มีรูระบายอากาศเยอะ เชือกรองเท้าก็เป็นแบบปกติ Normal Laces ลิ้นรองเท้าก็จะเป็นแบบ Padded Tounge ที่มีความหนานุ่ม เลยมาถึงบริเวณข้อเท้าก็จะเป็นแบบหนานุ่มด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ก็เพื่อให้มันสวมใส่ได้สบาย จุดบริเวณส้นเท้ามากับ TPU Clip พลาสติก ที่จะช่วยเพิ่มความมั่นคงบริเวณส้นเท้าและยังเพิ่มความทนทานเข้าไปด้วย
Midsole ตัวนี้น่าสนใจเพราะมันเป็นจุดขายของ Hoka เลย ซึ่งในรุ่นนี้จะเป็นแบบ Dual Layer EVA Midsole ซึ่งจะมีโฟมถึง 2 ชั้นทั้งด้านบนและด้านล่าง ด้านบนจะเรียกว่า Pro Fly เทคโนโลยี และยังมีเทคโนโลยี Mata Rocker ซึ่งมันจะถูกวางไว้ตรงบริเวณกระดูกเท้าที่ถูกดีไซน์มาอย่างดี และมันจะทำให้การวิ่งของเราไหลไปข้างหน้าอย่างนุ่มนวลเป็นธรรมชาติ ส่วน Outsole ก็จะเป็นยางที่ช่วยเพิ่มความทนทานในการใช้งานระยะยาว และยังมี Insole ที่ถอดได้ ง่ายต่อการทำความสะอาดและใช้เทคโนโลยี EVA โฟมรองรับแรงกระแทกจากการลงน้ำหนักของเรา เพิ่มความสบายระหว่างการสวมใส่ มาถึงเรื่องไซส์ Hoka One One Elevon ตัวนี้จะตรงไซส์เราเลย ส่วนคนหน้าเท้าบานหรือกว้างก็ให้เพิ่มไซส์เพิ่มไป 0.5
หลังจากได้ลองใส่วิ่งจริง Hoka One One Elevon ไประมาณ 100 กิโลเมตร วิ่งในทุกรูปแบบ ทั้งวิ่งช้า วิ่งเร็ว วิ่งสั้น และวิ่งยาว ประสิทธิภาพของเจ้ารองเท้าคู่นี้ที่สัมผัสได้เลยคือมันช่วยในการซัพพอร์ตมาก ๆ มีหน้าเท้าที่กว้างมากขึ้นและ Upper ที่ยืดหยุ่นและขยายได้ดีมากขึ้น ทำให้ใส่สบายเท้ามากกว่าเดิม และไม่ต้องทำการ break in ก่อนใส่ซ้อมครั้งแรก เรื่องการระบายอากาศรุ่นนี้ก็ดีกว่าปกติ เพราะเขาเพิ่มรูและขยายให้ใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อน ๆ ทั้งยังช่วยให้แห้งไวมากขึ้นในตอนที่มันเปียกอีกด้วย
เรื่องของการดีไซน์รวม ๆ ก็ดูสวยดีกว่ารุ่นที่ผ่าน ๆ มา มีสีให้เลือกหลายสีแล้วแต่คนชอบ ทั้งยังไม่ได้ดูเทอะทะมากเกินไป เห็น Midsole หนา ๆ แต่น้ำหนักของเราเท้าคู่นี้ก็เบาพอสมควรถ้าเทียบกับสายซัพพอร์ตทั่ว ๆ ไป ซึ่งน้ำหนักก็อยู่ที่ประมาณเกือบ 300 กรัม และด้วยดรอปของรองเท้าคู่ที่มันอยู่ที่ 5 มิลลิเมตรทำให้เราวิ่งได้อย่างเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ไม่ดันไปข้างหน้าจนมากเกินไป และมันมีพื้นที่คงทนมาก ๆ ขนาดวิ่งมาร่วม 100 กิโลเมตรแล้วดอกยางยังแน่นอยู่เลย
ส่วนสิ่งที่ไม่ชอบในเจ้า Hoka One One Elevon คู่นี้ก็คือการยึดเกาะไม่ดีเท่าไร ถ้าเราเอาไปวิ่งในพื้นที่เปียก ๆ มันจะลื่นมาก เชือกรองเท้าที่ให้มาก็สั้นไป พอผูกแล้วมันเหลืออยู่แค่นิดเดียวทำให้มันอาจจะผูกได้ไม่แน่นพอให้กระชับกับเท้าเรา ทั้งเชือกที่สั้นยังทำให้มันหลุดง่ายอีกด้วย ส่วนโฟมมันเวลาวิ่งก็จะมีรอยยับบ้าง (จริง ๆ มันก็เป็นกันอยู่หลายแบรนด์) อีกอย่างที่ไม่ชอบเลยคือราคามันสูงจนเกินไปในราคาเต็ม 7,200 บาท ซึ่งถ้าเทียบกับรองเท้าแบรนด์ชื่อดังตัวอื่นที่มีอีกหลายตัวเลือก มันก็ค่อนข้างช่างใจยากที่เราจะหยิบตัวนี้แล้วจ่ายเงินไปกับมัน ยังไงถ้าชอบก็รอมันลดราคาก่อนจะดีกว่า
เครดิตภาพจาก runnersworld.com
