รวม 10 รองเท้าผ้าใบไนกี้ยอดฮิตที่สาวกต้องมีติดบ้านไว้

รีวิวรองเท้า รองเท้าผ้าใบไนกี้
รีวิวรองเท้า รองเท้าผ้าใบไนกี้

     ถ้าพูดถึงแบรนด์รองเท้าผ้าใบไนกี้ เชื่อได้ว่าเพื่อน ๆ ทุกคนน่าจะมีติดบ้านกันเอาไว้อย่างน้อยคนละ 1 คู่อยู่แล้ว แต่ว่าในบางครั้งบางโอกาส รองเท้าเพียงคู่เดียวก็อาจจะยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของเรา ไม่ว่าจะด้วยการแต่งตัวในหลากหลายรูปแบบ การ mix and match ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายในสมัยนี้ก็มีความสนใจในแฟชั่นเพิ่มมากขึ้น 

     และด้วยความที่กระแสของแฟชั่นรองเท้ามีมาอย่างต่อเนื่องเรื่อย ๆ ร้านค้ามากมายจึงเข้ามาเปิดให้บริการในประเทศไทย ทำให้เรามีตัวเลือกสำหรับรองเท้าผ้าใบไนกี้ของแท้หลายรุ่นให้เราได้ลองสวมใส่ ไม่ว่าจะเป็น Air max หรือ Nike Air ในรุ่นอื่น ๆ และถ้าใครยังตัดสินใจหารองเท้าไนกี้อีกคู่เพิ่มไม่ได้ เราก็จะมานำเสนอตัวเลือก 10 รองเท้าผ้าใบไนกี้ เพื่อเป็นตัวเลือกให้เพื่อน ๆ ได้ตัดสินใจกันง่ายยิ่งขึ้น

รีวิวรองเท้า รองเท้าผ้าใบไนกี้
รีวิวรองเท้า รองเท้าผ้าใบไนกี้
รีวิวรองเท้า รองเท้าผ้าใบไนกี้

1. Nike Air Max 1

     เป็นรองเท้าที่น้อยคนจะไม่รู้จัก โดยรองเท้าคู่นี้ถูกวางจำหน่ายครั้งแรกในเดือนมีนาคมปี 1987 เป็นผลงานการออกแบบของ Tinker Hatfield ในส่วนรายระเอียดของรองเท้าคู่นี้จะประกอบไปด้วย Upper ที่เป็นผ้าตาข่ายแบบ Mesh มีความเบา ให้ความสบายในการสวมใส่ มีการระบายอากาศที่ดีพอสมควร น้ำหนักเบาและวัสดุหนังสังเคราะห์ เพิ่มความทนทานในการสวมใส่ ที่ลิ้นรองเท้ามี Logo Nike Air Max 

     ส่วนเทคโนโลยีที่เป็นจุดเด่นของรองเท้ารุ่นนี้ก็คือ Air Max ที่มากับพื้นรองเท้าโดยจะใช้เทคโนโลยี Air Sole และบริเวณแถวส้นรองเท้าก็จะมีช่อง Air ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์สามารถมองทะลุได้ ทรงรองเท้าก็มีความปราดเปรียว เหมาะกับคนที่ชอบใส่รองเท้าผ้าใบเป็นประจำในชีวิตประจำวัน ส่วนราคาป้ายของรองเท้าคู่นี้อยู่ที่ 5000 บาท สามารถเข้าไปซื้อกันได้ที่ www.nike.com

รีวิวรองเท้า รองเท้าผ้าใบไนกี้
รีวิวรองเท้า รองเท้าผ้าใบไนกี้
รีวิวรองเท้า รองเท้าผ้าใบไนกี้

2. Nike Air Force 1

     เปิดตัวในปี 1982 แต่เดิมเป็นรองเท้าบาสเกตบอล มีจุดขายเทคโนโลยีคือ Air ซึ่งถือว่าใหม่มาก ๆ ในสมัยนั้น แต่ปัจจุบันกลายเป็นมารองเท้าสนีกเกอร์ที่คลาสสิกแล้ว 

     โดยมันจะมี Upper ที่เป็นหนังสังเคราะห์ มีรูระบายอากาศบริเวณ Toebox มี Tag AF1 ที่โดดเด่นไว้ใช้ร้อยกับเชือกรองเท้า ใช้พื้นรองเท้าที่มีความทนทาน โดยการเย็บระหว่างตัว Midsole และ Outsole เข้าไปด้วยกัน ส่วน Air ของมันจะถูกซ่อนอยู่ข้างใต้รองเท้าที่เราไม่สามารถมองเห็นจากด้านนอกได้ เหมาะสำหรับคนที่ชอบรองเท้าแบบเรียบ ๆ ง่าย ๆ และรองเท้าคู่นี้มีราคาป้ายอยู่ที่ 3500 บาท สามารถเข้าไปซื้อกันได้ที่ www.nike.com

รีวิวรองเท้า รองเท้าผ้าใบไนกี้
รีวิวรองเท้า รองเท้าผ้าใบไนกี้
รีวิวรองเท้า รองเท้าผ้าใบไนกี้

3. Air Jordan 1

     สุดยอดรองเท้าบาสเกตบอลที่คนทั่วโลกต้องรู้จัก เริ่มต้นจากการที่ทางแบรนด์ Nike ได้เซ็นสัญญากับนักบาสเกตบอลอย่าง Michael Jordan สุดยอดผู้เล่นแห่งทีม Chicago Bulls และถูกสวมใส่ในปี 1984 ด้วยผลงานการเล่นของเขาก็ได้ทำให้รองเท้ารุ่นนี้กลายเป็นรองเท้าบาสเกตบอลรุ่นคลาสสิกตลอดกาล

     ซึ่งในรุ่นที่ผลิตออกมาใหม่ ๆ ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงวัสดุไปบ้างแต่ก็ยังคงรูปแบบเดิม ๆ เอาไว้อยู่ โดยจะใช้ Upper ที่เป็นวัสดุหนังสังเคราะห์ จุดเด่นบนรองเท้าก็จะมี Logo Air Jordan Wings อยู่ที่บริเวณข้อเท้า และมีเทคโนโลยี Air Sole อยู่ที่ใต้ผ่าเท้า เหมาะสำหรับแฟนบอยของ MJ และรุ่นนี้ก็มีราคาป้ายอยู่ที่ 4200 บาท สามารถเข้าไปซื้อได้ที่ www.nike.com

รีวิวรองเท้า รองเท้าผ้าใบไนกี้
รีวิวรองเท้า รองเท้าผ้าใบไนกี้
รีวิวรองเท้า รองเท้าผ้าใบไนกี้

4. Nike Cortez Basic

     เป็นรองเท้าสุดคลาสสิกอีกหนึ่งคู่ที่ผลิตตั้งแต่ปี 1972 โดยทางแบรนด์เริ่มผลิตมาเพื่อเป็นรองเท้าวิ่ง แต่ปัจจุบันก็ได้กลายเป็นรองเท้าแฟชั่นไปแล้ว ซึ่งรองเท้ารุ่นนี้ก็โด่งดังมาจากหนังเรื่อง Forrest Gump ที่มีนักแสดงอย่าง Tom Hanks ใส่วิ่งในหนังนั่นเอง 

     ส่วนรายระเอียดของรองเท้าก็จะใช้ Upper ที่เป็นทั้งหนังแท้และหนังสังเคราะห์ แตกต่างกันในรุ่นของผู้หญิงและผู้ชาย ด้านใน Insole ของผู้หญิงก็จะเป็นสีแดงแต่ของผู้ชายจะเป็นสีขาว และ Tag Logo บนลิ้นรองเท้าของผู้หญิงจะเป็นสีดำแต่ของผู้ชายจะเป็นสีแดง ส่วนพื้นรองเท้าแบบยางแข็งลายก้างปลาที่มีความทนทาน มีราคาอยู่ที่ 3100 บาท เข้าไปซื้อกันได้ที่ www.nike.com

รีวิวรองเท้า รองเท้าผ้าใบไนกี้
รีวิวรองเท้า รองเท้าผ้าใบไนกี้
รีวิวรองเท้า รองเท้าผ้าใบไนกี้
รีวิวรองเท้า รองเท้าผ้าใบไนกี้

5. Nike Air Max 95

     เป็นรองเท้าที่เริ่มผลิตออกมาตั้งแต่ปี 1995 เป็น Air Max ที่ค่อนข้างมีความแตกต่างจากตะกูล Air Max ทั่ว ๆ ไปในยุคนั้น เพราะมีการใช้ชิ้นส่วนของ Air ถึง 2 ชิ้นด้วยกัน ทำให้มันดูล้ำยุคทันสมัย ผู้คนมากมายก็อยากที่จะได้จับจองเป็นเจ้าของรองเท้าคู่นี้

     ส่วนจุดเด่นอีกอย่างของมันก็จะเป็น Upper ที่เป็นลวดลายรูปคล้ายคลื่นโดยมีการใช้สีที่แตกต่างกันก็ทำให้รองเท้าคู่นี้เป็นที่จดจำของคนทั่วไปเป็นอย่างดี ส่วนวัสดุที่ใช้ก็จะเป็นหนังสังเคราะห์ ที่บริเวณ Midsole จะมีการโชว์ Air ให้เห็นทั้งบริเวณด้านหน้าและด้านหลัง ที่รองรับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี ซึ่งได้รับแรงบัลดาลใจมาจากสรีระของมนุษย์ สวมใส่ได้ง่าย เหมาะกับคนที่ต้องเดินหรือยืนนาน ๆ และรองเท้าคู่นี้มีราคาป้ายอยู่ที่ 5800 บาท สามารถเข้าไปซื้อกันได้ที่ www.nike.com

รีวิวรองเท้า รองเท้าผ้าใบไนกี้
รีวิวรองเท้า รองเท้าผ้าใบไนกี้
รีวิวรองเท้า รองเท้าผ้าใบไนกี้

6. Nike Free

     ถูกผลิตขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2000 โดยมีแรงบัลดาลใจมาจากการวิ่งเท้าเปล่า ซึ่งมันถูกออกแบบมาให้รองเท้ามีการเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติ โดยจุดเด่นของมันคือจะมีรอยบากขนาดใหญ่ที่บริเวณพื้นรองเท้า ซึ่งมันจะมีความยืดหยุ่นสูง สามารถหักงอได้ในแต่ละก้าวเดินของเรา 

     ส่วนบริเวณ Upper ของรองเท้าคู่นี้จะใช้เป็นหนังสังเคราะห์ผสมกับผ้าถัก Flyknit ทำให้มันมีทั้งความกระชับ คงทนและระบายอากาศได้ดี บริเวณลิ้นรองเท้าก็มีความบางแต่นุ่ม ทำให้เราสวมใส่ได้ง่าย เหมาะสำหรับใส่ในชีวิตประจำวันทั่วไปและยังสามารถใส่ออกกำลังกายได้อีกด้วย ส่วนรองเท้าคู่นี้ก็มีราคาป้ายอยู่ที่ 2100 บาท ใครสนใจก็เข้าไปซื้อกันได้ที่ www.nike.com

รีวิวรองเท้า รองเท้าผ้าใบไนกี้
รีวิวรองเท้า รองเท้าผ้าใบไนกี้
รีวิวรองเท้า รองเท้าผ้าใบไนกี้
รีวิวรองเท้า รองเท้าผ้าใบไนกี้

7. Nike Air Presto

     ถูกวางจำหน่ายครั้งแรกในปี 2000 ถูกดีไซน์มาให้มีการสวมใส่เหมือนกับถุงเท้า โดยมี Upper เป็นผ้าตาข่ายแบบ Mesh ที่มีความยืดหยุ่นสูง บริเวณด้านหน้าเท้าจะมีการเสริมพลาสติก TPU แบบแข็งและมีความแวววาวเพื่อป้องกันนิ้วเท้าของเราจากการเตะสิ่งของต่าง ๆ ส่วนข้างเท้าด้านนอกและข้างเท้าด้านในจะมีการเสริม Cage ที่ใช้วัสดุ TPU เพื่อความสวยงามและยังช่วยในเรื่องความกระชับของรูปทรงรองเท้า อีกทั้งยังเป็นรูร้อยเชือกให้กับตัวรองเท้าด้วย 

     ส่วนรองเท้าคู่นี้จะไม่มีลิ้นรองเท้าเพราะมันจะรวมกับตัว Upper เป็นชิ้นเดียวกันไปเลย ด้านหลังรองเท้าจะมี Pull Tab เอาไว้ให้เราใช้ดึงเวลาที่ใส่หรือถอดรองเท้า Midsole จะใช้เทคโนโลยีโฟม EVA ที่มีความนุ่มและเบา ช่วยรองรับแรงกระทแกได้ดี ส่วน Outsole มีการเซาะร่องของตัวยางออกเพื่อความเบามากยิ่งขึ้น ทำให้มันมีความยืดหยุ่นแต่ยังยึดเกาะได้ดี  เหมาะกับคนที่ชอบรองเท้าสีเรียบ ๆ ใส่ได้ทุกสถานการณ์ และรองเท้าคู่นี้ก็มีราคาป้ายอยู่ที่ 5000 บาท ถูกใจก็เข้าไปกดกันได้ที่ www.nike.com

รีวิวรองเท้า รองเท้าผ้าใบไนกี้
รีวิวรองเท้า รองเท้าผ้าใบไนกี้
รีวิวรองเท้า รองเท้าผ้าใบไนกี้
รีวิวรองเท้า รองเท้าผ้าใบไนกี้

8. Nike Blazer

     เป็นรองเท้าที่เก่าแก่ถูกผลิตมาตั้งแต่ยุค 70 เรียบง่ายแต่มีสไตล์ มีความวินเทจ เริ่มแรกเดิมทีทางแบรนด์ได้ผลิตมาเพื่อใช้งานแบบอเนกประสงค์ ไม่ว่าจะเอาไว้ใส่เดิน ใส่เล่นบาสเกตบอล หรือใส่เล่นสเกตบอร์ด มีความเป็นแฟชั่นอยู่ในตัวด้วยรองเท้าที่เป็นลักษณะข้อสูง ทำให้ถ้าเราจะนำมาสวมใส่ใช้ในการแต่งตัว เราจะดูมีมิติและน่าค้นหามากยิ่งขึ้น

     Nike Blazer Mid ‘77 Vintage มี Upper ที่ทำจากหนังสังเคราะห์เพื่อคงความ OG เอาไว้ ที่บริเวณลิ้นรองเท้าด้านบนสุดจนไปถึงด้านในจะไม่มีการหุ้มหนังเอาไว้เพื่อให้ดูย้อนยุค มีโครงสร้างพื้นแบบ Autoclave เชื่อมต่อตัว Midsole ให้เข้ากับ Outsole ทำให้เราเท้าดูเก่ามาแต่แรก และที่ยางของพื้นชั้นนอกก็จะเป็นยางแบบลายก้างปลาลายเดียวกับตัวที่ผลิตในสมัยก่อนเลย ส่วนรองเท้าคู่นี้มีราคาป้ายอยู่ที่ 3600 บาท มีความคลาสสิกมาก ๆ เหมาะกับคนที่ชอบรองเท้าสไตล์ย้อนยุค ชอบถูกใจก็เข้าไปโดนกันได้ที่ www.nike.com

รีวิวรองเท้า รองเท้าผ้าใบไนกี้
รีวิวรองเท้า รองเท้าผ้าใบไนกี้
รีวิวรองเท้า รองเท้าผ้าใบไนกี้
รองเท้าผ้าใบไนกี้ (26)

9. Nike Dunk

     ถูกผลิตมาตั้งแต่ปี 1985 โดย Peter Moore ซึ่งเป็นคนเดียวกันกับคนที่ออกแบบ Jordan 1 โดยรองเท้าคู่นี้ก็ถูกออกแบบมาให้ใช้เล่นบาสเกตบอลในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งทำให้มันดูเป็นรองเท้าที่ระดับต่ำลงมา แต่กลับโด่งดังเป็นที่รู้จักจากการที่คนนำมันมาใช้เล่นสเกตบอร์ดมากกว่า โดยในปี 2002 ตัว Nike Dunk ได้มีการปรับปรุงโมเดลใหม่ ใช้ชื่อว่า Nike SB โดยรูปร่างจะเหมือนเดิมแต่จะมีความหนาที่มากยิ่งขึ้น ทำให้สาวกหลายคนถูกอกถูกใจและนำไปใช้เล่นสเก็ตบอร์ดกันทั่วโลกเลยทีเดียว

     ส่วนรายระเอียดของ Upper คู่นี้ก็จะใช้เป็นหนังสังเคราะห์ที่มีความทนทาน โมเดลจะมีความคล้ายกับ Jordan 1 อยู่บ้าง ที่ Toebox ก็จะมีรูระบายอากาศ ที่ลิ้นรองเท้าจะไม่หนาไม่บาง มีช่องให้ร้อยเชือกเพื่อความกระชับที่มากยิ่งขึ้น บริเวณ Midsole จะใช้การเย็บต่อกับตัว Outsole ส่วนดอกยางที่ Outsole ก็จะมีความคล้ายกับ Jordan 1 เช่นกัน ซึ่งจะให้การยึดเกาะได้ดีและมีความแข็งแรง รองเท้าคู่นี้มีราคาป้ายอยู่ที่ 3600 บาท เข้าไปซื้อกันได้ที่ www.nike.com

รีวิวรองเท้า รองเท้าผ้าใบไนกี้
รีวิวรองเท้า รองเท้าผ้าใบไนกี้
รีวิวรองเท้า รองเท้าผ้าใบไนกี้

10. Nike React Element 55

     เป็นรองเท้าที่พึ่งผลิตขึ้นในปี 2018 แต่ว่าโมเดลหลัก ๆ ของมันถูกผลิตมาตั้งแต่ปี 1982 แล้ว โดยในรุ่นนี้เขาได้นำเอาโมเดลรองเท้าวิ่งรุ่นเก่าที่ชื่อว่า Nike Internationalist ทำการผสมผลาสกับเทคโนโลยีใหม่อย่าง React ปรับปรุงแต่งเติมให้ดีขึ้นและทันสมัยกว่าเดิม จึงกลายเป็น Nike React Element 55 ส่วนเลข 55 นั่นก็มาจากธาตุ Periodic ในลำดับที่ 55 บนตารางธาตุ ซึ่งมันจะมีคุณสมบัติเป็นของเหลวแบบอ่อนนุ่ม ซึ่งก็เชื่อมโยงกับเทคโนโลยี React ที่ผลิตพื้นรองเท้ามาให้มีความนุ่มและเบาสบายนั่นเอง

     ตัว Upper คู่นนี้จะผลิตจากหนังสังเคราะห์ ใช้การเย็บแบบมีลูกเล่นที่ข้างเท้าด้านหลังใกล้กับตัว Swoosh ส่วนลิ้นรงเท้าก็จะมีการดีไซน์แบบโค้งงอให้รับกับข้อเท้าของมนุษย์ พระเอกของรุ่นนี้ก็คงหนีไม่พ้นพื้นที่ใช้เทคโนโลยี React ซึ่งเป็นโฟมแบบทนทาน มีน้ำหนักเบาที่ให้ความนุ่มนวลในขณะใช้งาน และรองเท้าคู่นี้มีราคาป้ายอยู่ที่ 5500 บาท ใครถูกใจก็เข้าไปซื้อกันได้ที่ www.nike.com

     ทั้งหมดนี้คือ รองเท้าผ้าใบไนกี้ 10 รุ่นของแท้จากไนกี้ประเทศไทยที่เรารวบรวมมาให้ได้เลือกหากัน ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็สวมใส่ได้ ใครคิดว่าเหมาะกับรองเท้าคู่ไหนลองไปจัดหามากันได้ เพราะด้วยสีและรุ่นของรองเท้ามีความเรียบง่ายสามาถใส่ได้ทุกวัน หลายคู่ก็มีเทคโนโลยี Air อยู่ในรองเท้าทำให้เราสวมใส่ได้นุ่มสบายเท้าอย่าง Air max 1 หรือ Air Max 95 ใครยังไม่มีก็ขอเชียร์ให้มีไว้ซักคู่เป็นการส่วนตัว

รวม 10 รองเท้าผ้าใบไนกี้ยอดฮิตที่สาวกต้องมีติดบ้านไว้