
Asics Metaracer ตัวนี้มี Upper แบบชั้นเดียวที่เบาสบายและมีความกระชับยืดหยุ่น โดยจะใช้เป็นเทคโนโลยีแบบ Engineered Mesh ทำให้การระบายอากาศทำได้ค่อนข้างดีพอสมควร รู้สึกได้ถึงเวลาวิ่งแล้วมีลมที่ผ่านเข้ามาสัมผัสถึงในเท้าของเราได้ ส่วนข้างเท้าด้านในและข้างเท้าด้านนอกก็จะมีสกรีนโลโก้ของทาง Asics เอาไว้อย่างโดดเด่น แต่ข้างเท้าด้านนอกจะมีคำว่า TOKYO มาเพิ่มให้เราด้วย
ในส่วนของเชือกรองเท้าก็จะเป็นแบบแบนธรรมดา แนวร้อยเชือกก็เป็นแบบเก่า แต่ก็ไม่มีการหลุดหรือคลายตัว มีความแน่นมาก ๆ ขยับมาที่ลิ้นรองเท้าก็มีความบางมาก ๆ แต่ยังให้ความนุ่ม และส่วนตรงข้อเท้าก็มีความบางไม่หนาจนเกินไปและบุให้มีความนุ่มเช่นเดียวกัน กระชับไปกับเท้าของเราเลย ส่วนส้นเท้าก็ไม่มีความแข็งแถมยังให้ความยืดหยุ่นได้ดีอีกด้วย
มาที่ Midsole ของคู่นี้จะใช้เป็น Flyte Foam เป็นโฟมของทางแบรนด์ที่ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง และยังมาพร้อมกับรูปทรงแบบโค้งที่เรียกว่า GuideSole แบบม้ากระดก ที่จะช่วยให้การวิ่งของเรามีการไหลลื่นมากยิ่งขึ้นและยังประหยัดพลังงานขณะที่เราวิ่งอีกด้วย
มาถึงพระเอกของงานจะเป็นส่วนไหนไปไม่ได้นอกจากแผ่นคาร์บอนที่ว่างไว้ใกล้กับพื้นรองเท้ามาก ๆ ซึ่งจะแตกต่างจากรองเท้าที่มีแผ่นคาร์บอนจากค่ายอื่น ๆ ที่วางไว้ใกล้กับเท้าของเรา ซึ่งในเรื่องของความดีดนั้นอาจจะไม่ได้รู้สึกถึงเท่าไร แต่จะได้การสัมผัสของพื้นแบบเต็ม ๆ เราจะลงเท้าใส่ส่วนไหนก็ได้ มันจะสามารถวิ่งในท่าวิ่งปกติของเรา ไม่มีการบังคับของรองเท้าเลย
ส่วน Outsole ก็เป็นยางที่เรียกว่า Asics Wet Grip Rubber ซึ่งจะมีความทนทานพอสมควร มีน้ำหนักเบา ช่วยในการยึดเกาะได้ดี ไม่มีอาการการลื่นหรือไถล มีการเซาะร่องที่บริเวณหน้าเท้าเพื่อช่วยในการโค้งงอได้ดีขึ้น
Asics Metaracer ให้ความสบายในการสวมใส่ มีความไหลในการวิ่งทำความเร็ว แต่มันจะไม่นุ่ม จะไม่ได้ดีด หรือเด้งมากนัก ให้ความรู้สึกแบบดิบ ๆ นักวิ่งขาแรงน่าจะชอบเพราะมันจะรู้สึกถึงสัมผัสของพื้นทำให้เราควบคุมความเร็วได้อย่างใจ ส่วนรองเท้าคู่นี้ก็มีน้ำหนักประมาณ 200 กรัม และมีดรอปที่ 9 มิลลิเมตร คนหน้าเท้ากว้างควรจะต้องเผื่อไว้ซักครึ่งไซส์ ใครอยากโดนก็หาซื้อได้ที่ https://runtoparadise.com/product/asics-metaracer-tokyo-men/
เครดิตภาพจาก runtoparadise.com