“Off White x Nike Dunk Low” Off White ที่ทำกับรองเท้ารุ่น Dunk เป็นครั้งแรก

รองเท้าปีนเขา Nike

Off White x Nike Dunk Low การรีดีไซน์ใหม่โดยการเพิ่มเชือกอีก 1 ชั้น โดยมีแรงบัลดาลใจมาจากรองเท้าปีนเขา มีกล่องแบบพิเศษที่เป็นสีเงินแบบแวววาว มี Swoosh สีดำตัวใหญ่อยู่ที่ด้านบนของกล่อง และด้านข้างจะมีการเจาะรูปใหญ่ ๆ ทะลุเข้าไปในกล่องหลายรูด้วยกัน ซึ่งก็จะเป็นดีไซน์เฉพาะของทางแบรนด์ Off White และที่ขาดไม่ได้คือป้าย Tag สีขาวอันใหญ่ที่ติดอยู่กับตัวรองเท้าซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเขา

“Off White x Nike Dunk Low” Off White ที่ทำกับรองเท้ารุ่น Dunk เป็นครั้งแรก 02

คู่นี้ของรองเท้าคู่นี้จะมาในสี Midnight Navy University Gold โดยจะมี Upper เป็นหนังแท้ที่ค่อนข้างนุ่ม โดยจะมีบริเวณ Toebox ที่เป็นสีเหลืองมีรูระบายอากาศ และมี Swoosh สีน้ำเงิน ส่วนที่ปลาย Swoosh จะมี Tag สีส้มสะท้อนแสงที่เป็นเอกลักษณ์ในรองเท้าของ Off White ทุกคู่ ขยับมาที่ส่วนข้างเท้าด้านในก็จะเจอกับข้อความของ Off White ที่สกรีนอยู่บนรองเท้าทุกคู่แต่จะเปลี่ยนคำตรงชื่อรุ่นของในแต่ละรุ่นเช่นกัน

มาที่จุดเด่นของรองเท้าคู่นี้ก็คือเชือกรองเท้าที่ได้ทำการร้อยเชือกแบบ 2 ชั้นขึ้นมา เชือกที่แถมมาให้เราจะเป็นสีกรมแบบแบนที่ปลายเชือกจะมีสกรีนคำว่า “SHOELACES” ส่วนเชือกที่ทับอยู่ด้านบนจะเป็นเชือกสีส้มสะท้อนแสงแบบกลมที่มีปลายสีดำและมีสกรีนคำว่า “SHOELACES” เช่นกัน ซึ่งเชือกด้านนอกนี้มีความยาวมาก ๆ ทำให้เราอาจจะผูกยากนิดหน่อย แต่ก็จะให้ความแตกต่างจากรองเท้ารุ่นอื่น ๆ แน่นอน

“Off White x Nike Dunk Low” Off White ที่ทำกับรองเท้ารุ่น Dunk เป็นครั้งแรก 03

มาที่ด้านหลังเราจะเห็น Logo Nike สีเหลือชัดเจน ส่วนบริเวณลิ้นรองเท้าที่เป็นหนังก็จะมี Tag Logo Nike วินเทจ ซึ่งในส่วนปลายของลิ้นรองเท้าก็จะไม่มีการเย็บเก็บขอบซึ่งก็เป็นหนึ่งในดีไซน์เฉพาะตัวของทาง Off White ที่เป็นเอกลักษณ์เช่นกัน ส่วนบริเวณรอบข้อเท้าก็จะเป็นสีกรมซึ่งจะใช้วัสดุเป็นผ้า Mesh ส่วนด้านใน Insole สีเหลืองก็จะมี Swoosh ตัวใหญ่มาก ๆ สกรีนเอาไว้ให้เรา

“Off White x Nike Dunk Low” Off White ที่ทำกับรองเท้ารุ่น Dunk เป็นครั้งแรก 04

ในส่วน Midsole ก็จะเป็นยางสีขาวปกติเรียบ ๆ และ Outsole ก็จะเป็นสีกรมที่เป็นพื้นแบบปกติเช่นกัน

“Off White x Nike Dunk Low” Off White ที่ทำกับรองเท้ารุ่น Dunk เป็นครั้งแรก 05

Off White x Nike Dunk Low คู่นี้มีดีไซน์เชือกที่อาจดูรุงรังไปซักหน่อย อาจจะใส่ยากซักนิด แต่ก็มีความโดดเด่นและสวยงามอยู่ในตัวของมันเอง ซึ่งมันจะมีราคาป้ายอยู่ที่ 6100 บาท และในตอนนี้ราคาก็พุ่งไปอยู่ที่ประมาณ 25000 กว่าบาทแล้ว

เครดิตภาพจาก snkrtoday.com

Facebook
Twitter